หนูน้อยวัย 1 ขวบ 10 เดือนถูกรถกระบะถอยทัพกะโหลกศีรษะแตกเสียชีวิตคาที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองราชบุรีได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีเหตุการณ์รถกระบะขนของข่อยมาทับเด็กเสียชีวิตคาที่ โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงเวลา 14:00 น. ของวันที่ 29 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2563 ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นซอยเล็กๆซอยหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลเดินทางไปถึงก็พบว่ามีคนเป็นจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์กันอยู่ซึ่งในนั้นมีทั้งด้านญาติของเด็กชายที่เสียชีวิตต่างก็พากันกอดศพของเด็กชายร้องไห้กันอยู่ในขณะเดียวกันเจ้าของรถกระบะที่ก่อเหตุนั้นก็ยืนรอมอบตัวกับการเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช่นเดียวกัน
จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามผู้ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นชายขับรถกระบะได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เขามีอาชีพขนสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่งโดยเป็นเจ้าของรถกระบะที่เกิดเหตุซึ่งซอยที่เกิดเหตุนี้เป็นซอยที่เขาอยู่อาศัยบ้านของเขานั้นอยู่ห่างจากบ้านของเด็กที่เสียชีวิตไปเพียงไม่กี่หลังเท่านั้นและตัวเขาเองก็รู้จักครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี
เขาได้เล่าอีกว่าโดยปกติแล้วเขาจะขับรถเข้าซอยอย่างระมัดระวังเนื่องจากหน้าซอยนี้จะมีเด็กเล็กออกมาวิ่งเล่นกันเป็นจำนวนมากและในวันนี้ในขณะที่เขาขับรถเข้ามาในบ้านเพื่อมาพักผ่อนตามปกติตัวเองก็ได้มีการมองเด็กที่จะเล่นอยู่บริเวณถนนในซอยเช่นเดิม ซึ่งเขาไม่พบความผิดปกติอะไรไม่มีเด็กออกมาวิ่งเล่นเขาจึงขับรถเข้าบ้านตามปกติและไม่ได้ขับเร็วอย่างไรก็ตามอยู่ดีๆเขารู้สึกว่าเหมือนล้อหลังของเขานั้นเหยียบอะไรถึงได้จอดรถและลงมาดูปรากฏว่าล้อหลังของรถกระบะที่เขาขับอยู่ได้ทับร่างเด็กชายคนหนึ่งทำให้เสียชีวิตซึ่งเป็นชายคนนั้นถูกทับบริเวณที่ศีรษะจนทำให้กระจกแตก
และเด็กชายที่เสียชีวิตนั้นอายุเพียงแค่ 1 ขวบ 10 เดือนเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเขามีส่วนผิดที่ขับรถขาดความระมัดระวังจนเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้จึงได้ยืนรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้มีการเข้าไปขอขมาทางด้านด้านของผู้เสียชีวิตแล้วพร้อมทั้งยืนยันว่าจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุดจะดูแลเรื่องของค่าใช้จ่ายเรื่องของการทำงานศพและค่าทำขวัญต่างๆให้
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถมองได้ว่านอกจากคนขับรถกระบะอาจจะขับรถประมาทแล้วทางด้านผู้ปกครองของเด็กเองก็ประมาทเช่นเดียวกันเพราะรู้อยู่แล้วว่าซอยในบ้านนั้นค่อนข้างแคบและมีรถใหญ่วิ่งผ่านไปมาตลอดตนเองจะต้องดูแลลูกหลานของตนเองเป็นอย่างดีไม่ให้ออกมาวิ่งเล่นบนถนนเพราะถ้าหากวิ่งตัดหน้ารถอาจจะทำให้คนที่ขับรถอยู่ไม่สามารถเบรคกระทันหันได้ทันและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตใต้แต่ผู้ปกครองของเด็กก็ละเลยและปล่อยให้เด็กออกมาวิ่งเล่นจนเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นความผิดนี้จึงผิดทั้งผู้ปกครองของเด็กเองและทั้งคนขับรถกระบะนั้นเอง
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์ lotto