หอยทากยักษ์แอฟริกา หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Achatina fulica เป็นหนึ่งในเอเลี่ยนสปีชีส์ที่มีการแพร่กระจายไปทั่วโลก หอยทากชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ป่าฝนเขตร้อนของแอฟริกาตะวันออก โดยเฉพาะในประเทศแทนซาเนียและเคนยา จากที่นั่น มันได้เริ่มขยายอาณาเขตไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งโดยธรรมชาติและจากการกระทำของมนุษย์

ในช่วงทศวรรษที่ 19 หอยทากยักษ์แอฟริกาเริ่มถูกนำเข้าสู่ประเทศต่างๆ ในเอเชียและมหาสมุทรแปซิฟิก

ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านทางการค้าระหว่างประเทศ และบางครั้งก็ถูกนำเข้าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านเกษตรกรรม หอยทากชนิดนี้ถูกคาดหวังว่าจะช่วยในการผลิตเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง

สำหรับผู้คนในพื้นที่ยากจน แต่แทนที่จะเป็นผลดี มันกลับกลายเป็นศัตรูพืชที่มีความสามารถในการแพร่พันธุ์สูงและกัดกินพืชไร่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเกษตรกรรมในพื้นที่ต่างๆ

การแพร่กระจายของหอยทากยักษ์แอฟริกามาถึงประเทศไทยเกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยส่วนหนึ่งถูกนำเข้ามาในฐานะสัตว์เลี้ยง

และอีกส่วนหนึ่งมาโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านทางสินค้าที่นำเข้าและขนส่งระหว่างประเทศ เมื่อหอยทากชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทย มันสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วและเริ่มแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกพืชสำคัญหลายชนิด

แม้ว่าหอยทากยักษ์แอฟริกาจะถือว่าเป็นศัตรูพืชในหลายประเทศ แต่ในบางพื้นที่ของไทย มันกลับได้รับความนิยมเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจเนื่องมาจากความแปลกใหม่และความสง่างามของเปลือกหอยที่มีขนาดใหญ่และลวดลายที่สวยงาม นอกจากนี้ ยังมีผู้คนบางกลุ่มที่เลี้ยงหอยทากยักษ์เพื่อใช้ในงานวิจัยและการศึกษา โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และความงาม โดยการใช้เมือกหอยทากในการผลิตเครื่องสำอางที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติในการบำรุงผิว

อย่างไรก็ตาม    ผู้สูงอายุควรใช้เครื่องช่วยฟังแบบไหน      การที่หอยทากยักษ์แอฟริกาเป็นที่นิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงและสัตว์เศรษฐกิจในบางพื้นที่ของไทย กลับไม่สามารถห้ามการแพร่กระจายของมันในธรรมชาติได้ มันยังคงเป็นปัญหาทางการเกษตรในหลายพื้นที่ เนื่องจากการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วและการทำลายพืชผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าหอยทากยักษ์แอฟริกาถูกมองว่าเป็นทั้งปัญหาและทรัพยากรในเวลาเดียวกัน การจัดการกับการแพร่กระจายของหอยทากชนิดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการปกป้องการเกษตรของไทย ขณะเดียวกันก็มีการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากหอยทากชนิดนี้ในเชิงเศรษฐกิจ เช่น การใช้เมือกหอยทากในการผลิตสินค้าความงามที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง