Category สุขภาพ

โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง (Chronic Sinusitis)

โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง (Chronic Sinusitis) เป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงไซนัสเกิดการอักเสบอย่างต่อเนื่องยาวนานเกิน 12 สัปดาห์ แม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม โรคนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ, การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ หรือสาเหตุอื่น ๆ เช่น ภูมิแพ้ หรือภาวะเยื่อบุโพรงจมูกโต (Nasal Polyps) ที่เป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของอากาศและเสมหะ

 สาเหตุของไซนัสอักเสบเรื้อรัง

  1. การติดเชื้อที่ซ้ำซาก: การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในไซนัสที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเพียงพอ อาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรัง
  2. ภูมิแพ้: การแพ้ฝุ่น, ละอองเกสร หรือเชื้อรา สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูกและไซนัสได้
  3. เยื่อบุโพรงจมูกโต (Nasal Polyps): เป็นก้อนเนื้องอกเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโพรงจมูกและไซนัส ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจและทางเดินน้ำมูก
  4. ความผิดปกติทางโครงสร้าง เช่น ผนังจมูกเบี่ยง (Deviated Septum) หรือทางเดินหายใจในโพรงจมูกแคบ ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินไซนัส

อาการของไซนัสอักเสบเรื้อรัง

– คัดจมูกหรือมีน้ำมูกไหลตลอดเวลา

– ปวดหรือกดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะที่หน้าผากและโหนกแก้ม

– ไม่ได้กลิ่น

– ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

– รู้สึกเจ็บคอหรือมีเสมหะในลำคอ

 

การรักษาโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง

  1. ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์: ยาพ่นจมูกที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์จะช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุจมูกและไซนัส ทำให้การระบายของเสมหะดีขึ้น
  2. ยาปฏิชีวนะ: ในบางกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อ
  3. ยาต้านฮิสตามีนหรือยาลดน้ำมูก: ใช้ในกรณีที่โรคไซนัสเกิดจากภูมิแพ้ เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหล
  4. การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ช่วยชะล้างเสมหะและลดอาการคัดจมูก การล้างจมูกควรทำเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของเสมหะ
  5. การผ่าตัดไซนัส: หากการรักษาด้วยยาล้มเหลว หรือมีภาวะเยื่อบุโพรงจมูกโต (Nasal Polyps) หรือความผิดปกติทางโครงสร้างที่ทำให้เกิดการอุดตัน แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดไซนัสเพื่อลดการอุดตันและช่วยให้การระบายเสมหะดีขึ้น

นอกจากการรักษาโดยแพทย์แล้ว ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไซนัสอักเสบเรื้อรังซ้ำ วิธีการดูแลตัวเองได้แก่:

– หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น, ควันบุหรี่, และละอองเกสร

– ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้เสมหะในโพรงไซนัสไม่ข้นเกินไป

– ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ

– รักษาความสะอาดของบ้านและที่ทำงาน เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้

เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    สรุป   โรคไซนัสอักเสบเรื้อรังสามารถรักษาได้ แต่ต้องใช้เวลาและการรักษาอย่างต่อเนื่อง การดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความรุนแรงของอาการและป้องกันการเกิดโรคซ้ำได้

มลพิษในบ้าน มาจากห้องไหนบ้าง

มลพิษในบ้าน มาจากห้องไหนบ้าง รวมทั้งพวกเราจะดูแลคุ้มครองได้ยังไง ในวัน ๆ หนึ่งพวกเราสูดอากาศได้มากถึง 9,000 ลิตร และก็คนภายในตอนนี้มักใช้เวลาอยู่ด้านในที่อยู่อาศัยมากกว่านอกบ้านมาก ๆ ฉะนั้นอากาศมลภาวะที่พวกเราสูดหายใจเข้าไป

ก็เลยมาจากข้างในตึก บ้านช่อง ซึ่งมลภาวะกลุ่มนี้อาจมาจากมลภาวะข้างนอกที่ผ่านเข้ามายังประตูหรือหน้าต่างที่พวกเราเปิดไว้ รวมถึงมลภาวะพวกนั้นอาจจะเกิดขึ้น

เนื่องมาจากกิจกรรมต่างๆในบ้านอาทิเช่นปรุงอาหาร รวมทั้งความร้อนสำหรับในการทำครัว ขนสัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้ และก็พืชต่างๆรวมถึงการใช้สินค้าสีทาเล็บหรือเทียนหอมในบ้าน ก็สามารถปลดปล่อยสารอันตรายได้

สำหรับสารหนึ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายเป็น สารฟอร์มาลดีไฮด์ เพราะเหตุว่ามันสามารถเป็นมลภาวะได้เป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี

รวมทั้งสารนี้มาจากเครื่องใช้ในครัวเรือนหลายแบบในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับไม้อัด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค น้ำยาที่ใช้เพื่อการทำความสะอาด ประพรม ผ้า ยาสูบ เครื่องแต่งหน้า สีทาบ้านแล้วก็สารฉาบเงาฯลฯ

อย่างไรก็แล้วแต่ สารฟอร์มาลดีไฮด์พวกนี้ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นด้านในครั้งเดียว แม้กระนั้นสารกลุ่มนี้สามารถอยู่ได้นานถึง 3 ถึง 15 ปี ดังที่ชาวจีนได้เรียนรู้มา โดยมีการแยกว่าแต่ว่าละห้องในบ้านนั้นสามารถเป็นต้นตอของมลพิษได้อย่างไรบ้าง

 

  1. ห้องนอน เครื่องเรือนไม้อัด สามารถปลดปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ สีทาในบ้าน มีสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ซึ่งจะปลดปล่อยออกมาในต้นแบบแก๊สเมื่อแห้งแล้ว รวมทั้งมีลัษณะทิศทางจะปลดปล่อยออกมาตลอด สินค้าผ้าต่างๆมักมีสารฟอร์มาลดีไฮด์แฝงอยู่ด้วย กลิ่นเผาไหม้จากเทียนหอม สามารถปลดปล่อยสาร VOC ออกสู่อากาศได้
  1. ห้องรับแขก มลพิษทางอากาศด้านนอก เป็นผลมาจากละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น รวมทั้งมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศในเมือง ที่สามารถไปสู่บ้าน แล้วก็ไม่หายไปไหนยังคงติดและสะสมตามใน้บ้าน เครื่องเรือนใหม่ มีโพลิเมอร์ที่ปลดปล่อยสาร VOC กาวจากพื้น สามารถปลดปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ แล้วก็สารบางทีอาจดำรงอยู่ได้นานตลอดชีพ ขนแมว หมา และก็สัตว์เลี้ยงในครอบครัวอื่นๆสามารถแพร่ไปได้บริเวณห้อง พืชแล้วก็ดอกไม้ สามารถปลดปล่อยละอองเกสรสู่อากาศ
  2. ครัวสินค้าชำระล้าง สามารถนำไปสู่ควันแล้วก็กลิ่นในครอบครัว เตาแก๊ซรวมทั้งควันหุง จะปลดปล่อยควัน กลิ่น และก็อนุภาคขนาดเล็กไปยังอากาศ น้ำหอม แล้วก็สเปรย์ ประกอบไปด้วยสาร VOC ที่สามารถปลดปล่อยออกมากับกลิ่นหอมสดชื่นหรือเวลาพ่นสเปรย์ รอบ ๆ ที่เปียกชื้น อาจมีเชื้อราและก็ปลดปล่อยสปอร์ของเชื้อราสู่อากาศ

สำหรับวิธีการจัดการกับปัญหากลุ่มนี้ นอกเหนือจาก  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่     การเลี่ยงเครื่องเรือนซึ่งมีอุปกรณ์บางชนิดที่มีสารอันตรายแล้ว การเลือกใช้เครื่องเรือนที่ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย วิธีการทำความสะอาดบ้านอย่างแม่นยำและก็บ่อยแล้ว ปัจจุบันนี้ยังมีนวัตบาปเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อขจัดปัญหาดังที่กล่าวถึงมาแล้ว อย่างพัดลมกรองอากาศ

วิธีการเลือกซื้อน้ำยาถูพื้นให้เหมาะกับพื้นบ้านของเรา

มีน้ำยาถูพื้นถือได้ว่าเป็นน้ำยาที่มีความสำคัญสำหรับแม่บ้านหรือคนที่ชอบทำความสะอาดบ้านโดยน้ำยาถูกพื้นนี้สามารถเลือกซื้อได้ตามร้านทั่วไป และมีสรรพคุณช่วยให้ขจัดคาบที่อยู่ตามพื้นได้สะอาดหมดจดและนอกจากนั้นยังสามารถทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะติดกับพื้นบ้านของเราได้อีกด้วยน้ำยาถูพื้นนี้ในปัจจุบันมีการพัฒนานอกจากจะช่วยให้พื้นสะอาดแล้วยังช่วยทำให้มีกินหอมอีกด้วย

วิธีการเลือกซื้อน้ำยาถูพื้นให้เข้ากับพื้นบ้านของเรา โดยมีวิธีการเลือกง่ายดายไม่ยุ่งยากหรือว่าซับซ้อนแต่อย่างใดแต่ว่าถ้าหากว่าคุณเลือกน้ำยาถูกพื้นผิดประเภทหรือบางยี่ห้อที่ไม่ดีก็อาจจะส่งผลให้คาบสกปรกบนพื้นผิวไม่สะอาดแถมยังทำให้พื้นผิวเป็นคาบได้อีกด้วยดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกน้ำยาถูพื้นอย่างไรให้เข้ากับพื้นผิวและกระจัดคาบฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% มาดูกันเลย

 

1.น้ำยาถูพื้นที่พื้นเป็นลักษณะไม้

 วิธีการเลือกน้ำยาที่ทำความสะอาดพื้นไม้สามารถเลือกได้โดยดูฉลากข้างขวดที่มีคำว่าผลิตภัณฑ์เพื่อปกป้องเนื้อไม้และทำความสะอาดได้ 99.99% นอกจากนั้นส่วนผสมจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อพื้นผิวไม้ของเราด้วยซึ่งในท้องตลาดนั้นก็ได้ผลิตน้ำยาถูพื้นสำหรับพื้นที่เป็นไม้เอาไว้ด้วยเช่นกันดังนั้นไม่ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผสมแอลกอฮอล์อย่างมากเพื่อที่จะทำให้พื้นไม้ของคนนั้นเป็นรอยได้

 

2.น้ำยาถูพื้นที่เป็นพื้นหินอ่อน

 สำหรับพื้นหินอ่อนนั้นเราเชื่อว่าหลายหลายคนมักจะนิยมนำมาทำเป็นพื้นโดยการทำความสะอาดนั้นถือว่าค่อนข้างที่จะยุ่งยากสักนิดหน่อยเพราะหินอ่อนอาจจะเป็นรอยได้ง่ายและวิธีการเลือกน้ำยาสำหรับถูกพื้นหินอ่อนควรเลือกน้ำยาที่ไม่รุนแรงนัก เพราะจะส่งผลทำลายผิวของหินอ่อนได้ดังนั้นเราควรเลือกน้ำยาที่อ่อนเพื่อป้องกันพื้นผิวหินอ่อนของเรานั่นเอง

 

3.น้ำยาถูพื้นกระเบื้อง

 พื้นกระเบื้องนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนทั่วไปการกระจัดคาบบนพื้นผิวกระเบื้องก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนะแต่ว่าถ้าหากคุณเลือกน้ำยาผิดประเภทก็จะทำให้พื้นกระเบื้องเป็นคาบดูไม่สวยงามไม่สะอาดตาเอาได้และนอกจากนั้นกระเบื้องยังมีร่องที่ทำให้มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดได้แน่นเวลาที่คุณเลือกน้ำยาควรเลือกพี่ทำความสะอาดลึกซึ้งแต่ต้องมีส่วนผสมของน้ำยาที่ไม่ทำให้พื้นกระเบื้องเสียด้วย

 

4.น้ำยาถูพื้นแบบพื้นลามิเนต

 แน่นอนว่าพื้นลามิเนตก็กำลังเริ่มมาเป็นที่นิยมสำหรับคนที่มีบ้านโดยพวกเขามักจะริเริ่มเอาพื้นลามิเนตมาปูค่อนข้างที่จะมากเพราะราคามันค่อนข้างที่ไม่แพงนักและยังทำให้สวยงามอีกด้วย พื้นลามิเนตถือได้ว่าเป็นพื้นไม้ที่มีความแข็งแรงแต่ว่าเราก็ไม่ควรที่จะใช้น้ำยาถูพื้นชนิดรุนแรงเพราะจะทำให้พื้นไม้บวมได้ดังนั้นการทำความสะอาดจึงง่ายนิดเดียวน้ำยาที่จะนำมาใช้ก็จะต้องเป็นสูตรอ่อนถึงจะดีที่สุด

 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ปัญหาการได้ยิน

ผลเสียที่เกิดจากกินอาหารแล้วนอนทันที 

สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงผลเสีย  ที่เกิดจากพฤติกรรมการกินของเราที่เมื่อทานอาหารแล้วไม่ปล่อยให้ร่างกายได้ย่อยแต่เลือกที่จะนอนทันที  ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมากมาดูกันว่าผลเสียที่เกิดขึ้นจากการกินอาหารแล้วนอนทันทีนั้นมีอะไรบ้าง

แน่นอนว่าสำหรับใครที่มีพฤติกรรมเมื่อกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่ยอมนั่งรอให้อาหารย่อยให้เสร็จก่อน

แต่เลือกที่จะนอนพักผ่อนเช่นอาจจะนอนดูซีรีย์หรือบางคนอาจจะเลือกนอนหลับไปเลยนั้นก็จะเกิดผลเสียอย่างแน่นอนซึ่งผลเสียอย่างแรกนั้นเชื่อว่าหลายคนคงรู้กันเป็นอย่างดีนั่นก็คือการเกิดโรคกรดไหลย้อนนั่นเองเนื่องจากว่าโรคชนิดนี้นั้นเกิดขึ้นจากการทำงานของหลอดอาหาร 

สำหรับกรดไหลย้อนนั้นเป็นพฤติกรรมการกินของคนที่มักจะกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วนอนทันทีเมื่ออาหารกำลังไหลลำเลียงไปสู่กระเพาะอาหารและยังไม่เกิดการย่อยก็อาจจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารได้

ถ้าหากว่าเรารีบนอนซึ่งมันจะทำให้หลอดอาหารที่มีความบอบบางนั้นเกิดการอักเสบและทำให้เกิดอันตรายได้ซึ่ง  เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล     คนที่เป็นกรดไหลย้อนนั้นจะมีพฤติกรรมแสบร้อนแถวบริเวณทรวงอก

ดังนั้นหากเราไม่ต้องการที่จะป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อนเราควรจะต้องมีพฤติกรรมหลังกินอาหารด้วยการออกไปยืนรับลมด้านนอกหรืออาจจะนั่งย่อยอาหารก่อนที่จะนอนซึ่งเราควรที่จะให้กระเพาะอาหารได้มีการทำงานประมาณ 2-3 ชั่วโมงเราถึงจะสามารถนอนได้ 

นอกจากนี้ถ้าหากเรากินอาหารแล้วเรานอนเลยโอกาสสูงมากที่จะทำให้เรานอนไม่หลับนั่นก็เพราะว่าเมื่ออาหารยังไม่ย่อยจะทำให้เราอยู่ในสภาวะที่รู้สึกอึดอัดหรือบางคนอาจจะปวดท้อง  รวมถึงบางคนอาจจะเกิดสภาวะนอนหลับฝันร้ายหรือครึ่งหลับครึ่งตื่นหรือบางคนอาจจะรู้สึกนอนหลับแล้วไม่ค่อยสนิท ซึ่งผลต่างๆเหล่านี้มาจากการที่เรากินอาหารแล้วเรารีบนอนมากจนเกินไปดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะปล่อยให้กระเพาะอาหารได้ย่อยอาหารเสียก่อนแล้วจึงค่อยอาบน้ำแล้วนอนหลับพักผ่อน

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเพิ่มเติมขึ้นมาที่เกิดมาจากการที่เรารีบนอนทันทีหลังจากที่กินอาหารนั่นก็คืออาจจะทำให้เราเกิดเป็นโรคอ้วนได้ง่าย เนื่องจากว่าอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นยังไม่ได้มีการถูกนำไปใช้พลังงานเช่นบางคนนั้นอาจจะกินอาหารที่มีแคลอรี่สูงมีไขมันสูงและเมื่อกินแล้วก็ยังไม่ได้มีการเบลอหรือการเผาผลาญพลังงานในส่วนนี้ทำให้พลังงานนั้นไปสะสมในร่างกายแล้วทำให้เกิดอาการของโรคอ้วนได้นั่นเอง 

ดังนั้นหากใครที่ไม่อยากมีอาการที่กล่าวไปข้างต้นนี้ก็ควรที่จะมีการรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วนั่งทำกิจกรรมอื่นๆไปก่อนไม่ว่าจะเป็นการนั่งชมข่าวหรืออ่านหนังสือหรืออาจจะไปเดินย่อยอาหารรอบๆบ้าน  เพื่อที่จะให้ร่างกายได้มีเวลาในการย่อยอาหารและเผาผลาญอาหารที่เรารับประทานเข้าไปผลเสียต่างๆที่เกิดขึ้นที่กล่าวไปข้างต้นก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

จุดที่หมักหมมที่สุดในบ้าน พร้อมทางแก้ปัญหาอย่างฉลาด

จุดที่หมักหมมที่สุดในบ้าน พร้อมทางแก้ปัญหาอย่างฉลาด ด้วยเวลาเพียงแค่ 15 นาทีต่อวันกับวิธี รวมทั้งกลเม็ดต่อแต่นี้ไป จะมี  hoiana เวียดนาม   ผลให้คุณสามารถควบคุมความไม่เป็นระเบียบ รกรุงรังของเหล่าจุดสุดเกลื่อนกลาดในบ้านได้ในพริบตา

  1. ปากทางเข้าบ้าน รอบๆปากทางเข้าห้องมักเป็นจุดที่เกลื่อนกลาดจุดแรกข้างหลังเปิดประตูบ้านเข้ามาด้านใน กรรมวิธีจัดแจงกับรอบๆนี้เป็นการหาตัวช่วย อย่างเช่นจานชามสำหรับใส่กุญแจ กระเช้าสำหรับใส่พวกซองสำหรับใส่จดหมาย เอกสารต่างๆที่ตั้งสำหรับห้อยกระเป๋า ตาขอห้อยฝาผนังสำหรับห้อยสิ่งต่างๆมีตะกร้าหรือชั้นวางใกล้กับที่เก็บรองเท้าด้านข้างประตู

 

  1. โต๊ะกาแฟ เปลี่ยนไปเป็นที่วางข้าวของอื่น ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นรีโมทคอนโทรล วารสาร หนังสือพิมพ์ ฉะนั้นให้หาข้าวของมาใส่ของกลุ่มนี้ถ้าคุณได้โอกาสซื้อโต๊ะกาแฟใหม่ให้เลือกโต๊ะกาแฟซึ่งสามารถทำเป็นนานัปการฟังก์ชั่น

 

  1. ส่วนบนของเคาน์เตอร์ สะสางรอบๆข้างบนเคาน์เตอร์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วก็นำของพวกนั้นเก็บของลิ้นชักหรือตู้ที่เอาไว้เพื่อเก็บของให้เป็นระเบียบ โดยพิเคราะห์ได้จากข้าวของที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอามาวางเอาไว้ที่ด้านบนเคาน์เตอร์ก็คือของที่มิได้ประยุกต์ใช้หลายครั้งหนัก โดยเช็กได้จากของนานกว่า 2 อาทิตย์ถึงจะถือมาใช้ ให้เก็บของพวกนั้นเอาไว้ในตู้หรือลิ้นชักให้หมด

 

  1. ลิ้นชักครัว ทิ้งของที่มิได้ใช้ในลิ้นชักออกทั้งปวง อย่างเช่นคูปองที่หมดอายุไปแล้ว แล้วก็นำของที่น่าจะอยู่ในลิ้นชักมาใส่เอาไว้ภายในลิ้นชัก โดยเก็บของต่างๆที่เหมาะสม รวมทั้งควรต้องใช้ไว้ใกล้เพื่อความสบาย ยกตัวอย่างเช่นเก็บช้อน ส้อมไว้ใกล้เตา เก็บกล่องเก็บของไว้ใกล้ตู้แช่เย็น

 

  1. ตู้แช่เย็น บางทีตู้เย็นก็เป็นเสมือนถังสำหรับใส่ขยะของใครซักคน เนื่องจากขนาดของหมดอายุยังอยู่ในตู้แช่เย็นเลย ก็เลยไม่แปลกที่ตู้เย็นจะเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งจุดที่เกลื่อนกลาด ไม่มีระเบียบ ด้วยเหตุผลดังกล่าวประการแรกคุณควรจะระบุชั้นวาง หรือพื้นที่ส่วนหนึ่งของตู้แช่เย็นเพื่อจัดเก็บข้าวของ นอกจากการมีฉลากและก็ระบุวันไว้บนภาชนะที่ใส่ทั้งปวง จะก่อให้นำของพวกนั้นมาใช้ได้สบายเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังผิดลืมด้วย

 

  1. โต๊ะทำงาน เป็นหลักที่ที่ใช้ทุกเมื่อเชื่อวัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวของใช้ เครื่องใช้สอยต่างๆมันก็เลยกระจุยกระจาย การเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่เคยใช้วันแล้ววันเล่าให้เรียบร้อยเพื่อสร้างพื้นที่เพื่อการเก็บข้อมูลต่างๆในทุกวี่วันอีกรอบ หลบหลีกการวางเอกสารบนโต๊ะของคุณ เว้นเสียแต่แต่คุณจะใช้เอกสารพวกนั้นเพื่อการทำงาน

 

  1. เคาน์เตอร์ในห้องอาบน้ำ สะสางเคาน์เตอร์ในห้องสุขาให้เป็นระเบียบ พวกข้าวของต่างๆสบู่ วางเครื่องไม้เครื่องมืออาบน้ำทุกเมื่อเชื่อวันเอาไว้ภายในกระเช้า หรือกระเป๋าที่มีหูหิ้ว เพื่อการจัดเก็บที่ง่ายสุดๆ แล้วก็สามารถจับมาใช้ได้อย่างสะดวก

4 จุดในบ้าน ที่สะสมเชื้อโรคสะสมฝุ่น

ในตอนนี้ที่มลภาวะทั้งยัง PM 2.5 รวมทั้งเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือแม้กระทั้งหวัดทั่ว ๆ ไปเริ่มมารุกรามการใช้ชีวิตประจำวัน ก็เลยจำเป็นต้องที่พวกเราจำเป็นต้องให้ความใส่ใจกับการดูแลและรักษาความสะอาด โดยยิ่งไปกว่านั้นในบ้านที่จำต้องพักอาศัยอยู่วันแล้ววันเล่า

  1. ราวจับบันได เหมือนกับลูกบิดประตู เนื่องจากว่าผู้อาศัยจำเป็นต้องสัมผัสกับราวจับบันไดวันแล้ววันเล่า โดยยิ่งไปกว่านั้นคนแก่ที่จึงควรใช้เพื่อช่วยประคองตัว โดยเหตุนั้น การเช็ดราวจับบันไดให้สะอาด นอกเหนือจากที่จะสะอาดลดการสะสมเชื้อโรคยังช่วยให้เงางาม เพียงใช้น้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชู ใช้ผ้าจุ่และบิดก่อนแล้วนะมาเช็ดทำความสะอาด และเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกรอบ

 

  1. ต้นไม้ในบ้าน ไม่ว่าจะต้นไม้ใช่หรือต้นไม้เลียนแบบ ใบไม้ก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองรวมทั้งสิ่งสกปรกได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นต้นไม้ที่อยู่ในห้องนอน เพราะว่าเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เรียกกว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergens) หรือแรงกระตุ้น ซึ่งบางทีอาจไปสู่ร่างกายผ่านทางระบบหายใจ การกินอาหาร การสัมผัสทางผิวหนัง

 

โดยโรคภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในประเทศไทยเป็นเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และก็เพิ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี ซึ่งภายในช่วงเวลา 20 ปี คาดว่า จะมีคนป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มสูงถึง 3-4 เท่า

 

สำหรับเพื่อการชำระล้างต้นไม้จริงให้ชูไปฉีดน้ำล้างสิ่งสกปรกออก แม้กระนั้นถ้าเกิดต้นไม้มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ก็ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์มาขัดชำระล้างครั้งละใบแทน ส่วนต้นไม้เลียนแบบสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายๆโดยการใช้ที่เป่าผมเป่าฝุ่นละอองออก ที่สำคัญอย่าลืมคาดผ้าปิดปากคุ้มครองป้องกันฝุ่นผงด้วย


  1. ถังใส่ขยะ แม้ว่าจะกำจัดขยะออกมาจากถังสำหรับใส่ขยะแต่ละวัน แม้กระนั้นแบคทีเรียรวมทั้งกลิ่นเหม็นก็ยังคงหลงเหลือแล้วก็สะสมอยู่ในถังที่มีไว้เพื่อใส่ขยะได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวทางที่ดีอย่าลืมล้างถังสำหรับใส่ขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคกับกำจัดสิ่งสกปรก รับประกันว่าเชื้อโรคแล้วก็กลิ่นในถังที่มีไว้เพื่อใส่ขยะหายหมดจดแน่ๆ

 

  1. มุ้งลวดรวมทั้งที่บังตา มุ้งลวดแล้วก็ที่บังตาเป็นแหล่งสะสมฝุ่นผงชั้นหนึ่ง ด้วยเหตุว่าชำระล้างยาก ก็เลยได้โอกาสที่ฝุ่นและสิ่งสกปรกมารวมตัวได้ง่าย โดยกระบวนการทำความสะอาดมุ่งลวดสามารถทำเป็นกล้วยๆโดยล้างด้วยน้ำสบู่แล้วก็ใช้แปรงขัดออก แล้วนำไปตากให้แห้ง แนะนำให้ใช้ผ้าเปียกถูรางมุ้งลวดให้สะอาด ส่วนเรื่องมูลี่ก็สามารถใช้ผ้าประเภทไมโครไฟเบอร์เปียกหมาด ๆ มาเช็ด อีกทั้งเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง

 

สนับสนุนโดย    คาสิโน ญาจาง

บอกต่อวิธีไล่จิ้งจก ไล่มด

ทำอย่างไรดีเมื่อในบ้านมีแต่จิ้งจก สำหรับบ้านหลังไหนที่มักเผชิญกับปัญหาจิ้งจกอยู่ในบ้านมาก ดูไปทางไหนก็พบแม้กระนั้นจิ้งจกอยู่ทุกซอกบ้าน กำจัดอย่างไรก็ไม่หมด ยิ่งผู้ใดกันที่เป็นคนกลัวจิ้งจก บอกได้เลยว่าจิ้งจกนับว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างยิ่งจริง ๆ

วันนี้เราจะมาบอกวิธีป้องกันผู้ที่กลัวจิ้งจกมากมายเลยต้องการนำทริคนิด ๆ หน่อย ๆ สำหรับเพื่อการกำจัดจิ้งจกออกมาจากบ้านของพวกเราไปอย่างยั่งยืนให้สหายที่กลัวจิ้งจกเช่นกันเอาไปใช้กันได้

มุ้งลวด บ้านที่มีมุ้งลวดให้กับประตูและก็หน้าต่าง ซึ่งเป็นถนนหนทางหลักของเหล่าแมลง จะมีผลให้แมลงเข้าบ้านของพวกเรามิได้ แล้วก็เมื่อในบ้านของเราไม่มีอาหารที่เป็นของกินโปรดของเหล่าจิ้งจก ก็จะส่งผลให้จิ้งจกไม่ต้องการที่จะอยากเข้ามาในบ้านของพวกเราแล้ว

 

หลอดไฟฟ้าวอร์มไวท์ เป็นวิธีการทำลายแหล่งแมลงของกินสุดโปรดจิ้งจก ก็คือการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นสีวอร์มไวท์ เพราะ  Inspire Entertainment Resort     แมลงจะชอบมาตอมหลอดไฟฟ้าสีขาว การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นวอร์มไวท์ หรือโทนสีส้มจะช่วยทำให้ไม่เย้ายวนใจแมลง รวมทั้งเมื่อไม่มีของกินของจิ้งจกแล้ว มันก็จะไม่มาอีก

 

ถุงการบูร เว้นแต่กลิ่นหอมหวนของการบูร คุณลักษณะอีกอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการไล่จิ้งจก แมลงสาบ ยุง มด แล้วก็สัตว์ไม่พึ่งตั้งใจตัวเล็กตัวน้อยต่าง ๆ ได้ การนำถุงการบูรมาตกแต่งบ้านก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะสามารถช่วยปกป้องจิ้งจกไม่ให้กลับมายังบ้านของพวกเราอีกอย่างคงทนอย่างยิ่งจริง ๆ

 

เลี้ยงแมว อย่างที่พวกเราทราบกันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์ศัตรูกับจิ้งจก ถ้าเกิดมองเห็นเมื่อไรจำเป็นต้องวิ่งตามขับทุกหน กล่าวได้ว่าจับมิได้ก็จะไม่พักแน่ ๆ ถ้าเกิดบ้านคนไหนกันแน่มีปัญหาจิ้งจกมากไล่อย่างไรก็ไม่ไป ทดลองเลี้ยงแมวสักตัวไว้ช่วยพวกเราจับจิ้งจก รับประกันได้เลยว่าจะไม่มีจิ้งจกตัวไหนกล้าย่างกรายเข้ามาในบ้านของคุณอย่างยิ่งจริง ๆ

 

รวมแนวทางกำจัดมด ไม่เป็นอันตรายไม่มีสารเคมี

น้ำดื่ม และน้ำส้มสายชู คุณประโยชน์ของน้ำส้มสายชูมีมากมายก่ายกอง รวมทั้งหนึ่งในซึ่งก็คือสามารถไล่มดได้ เพียงนำผสมระหว่างน้ำกับน้ำส้มสายชูในอัตราเท่ากัน แล้วหลังจากนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบรวมทั้งเอามาเช็ดถูรอบ ๆ ที่มดมักเดินผ่าน หรือผสมแล้วนำใส่ขวดแล้วนำมาฉีดพ่นตามมุมหรือทางมดเดินทางก็ได้

น้ำมะนาวมี กรดซิตริก ซึ่งสามารถไล่มดได้ เพียงนำมาผสมเข้ากับน้ำ กรอกใส่ขวด แล้วนำไปฉีดพ่นในรอบ ๆ ที่พบได้ทั่วไปมดเสมอ ๆ

วิธีทำความสะอาดผนังบ้านให้สะอาดและสดใสเหมือนใหม่

ในยุคสมัยนี้ความสะอาดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องให้ความสนใจเพราะว่าเรามีเชื้อโรครอบตัวอย่างมากมายดังนั้นการจัดระเบียบบ้านให้สะอาดอยู่เสมอทุกซอกทุกมุมจึงถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น และวิธีการทำความสะอาดผนังบ้านก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะว่าผนังบ้านของเรานั้นก็มีฝุ่นและมีเชื้อโรคต่างๆเกาะติดอยู่เช่นกันและวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดผนังบ้านให้สดใสและเหมือนใหม่

 

วิธีทำความสะอาดผนังบ้านให้สะอาดและสดใสเหมือนใหม่ มีดังนี้

1.จัดเตรียมพื้นที่ให้เรียบร้อย

ก่อนที่คุณจะไปทำความสะอาดผนังคุณควรที่จะจัดเตรียมพื้นที่ให้เรียบร้อยโดยอะไรที่มันเกะกะก็ควรที่จะขยับออกไปเพื่อไม่ให้เกิดการเปิดเปื้อน ยกตัวอย่างเช่นเฟอร์นิเจอร์ถ้าหากมีน้ำยาหรือน้ำหกใส่ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีเป็นแน่เพราะอาจจะส่งผลทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณเสียหายได้ดังนั้นควรหาผ้าคลุมหรือขยับเพื่อไม่ให้เกิดการเสียหายและเกะกะคุณได้

 

2.ควรเช็คผนังก่อนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรจึงจะได้ทำความสะอาดได้ถูกต้อง

ผนังบ้านของคนเรามีลักษณะไม่เหมือนกันบางบ้านก็ใช้การทาสีผนังแต่บางบ้านก็มีการใช้วอลล์เปเปอร์เพื่อแปะผนังของเค้าให้ดูสวยงามไปอีกแบบหรือบางบ้านก็ใช้ปูนเปลือยไปเลยแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการทำผนังจะมีแบบไม้มีแบบอื่นด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามคุณควรที่จะเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเสียหายที่ตามมาเพราะบางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะใช้กับน้ำยาหรืออาจใช้ได้แต่ใช้แบบชนิดเบื่อจาง ทำให้คุณต้องมีระเบียบหรือวิธีการในการจัดการให้ถูกต้อง

 

  1. เช็คความสกปรกว่าเกิดจากอะไร

ผนังของคุณอาจจะไม่ได้สะอาดมากนะบางที่อาจจะมีการแปะเทปกาวเอาไว้หรือปะปนไปด้วยฝุ่นไรซึ่งนั่นจะมีวิธีการแก้ไขของมันเพราะถ้าเราทำผิดขั้นตอนอาจส่งผลทำให้ผนังของคุณเป็นรอยดำหรืออาจจะเป็นด่างได้

การแก้ไขคราบกาวที่ติดผนัง

สำหรับคาบกาวที่ติดกับผนังบ้านของคุณคุณควรใช้น้ำยาล้างจานผสมเข้ากับน้ำอุ่นเล็กน้อยและนำไปเช็คคราบกาวเหล่านั้นออก นี่คือวิธีการที่จะทำให้บ้านของคุณไม่เป็นไรแต่อย่างใด

 

การแก้ไขคราบฝุ่นหรือคายดำฝังลึก

การเกิดคราบดำฝังแน่นแน่นอนว่ามันต้องทำความสะอาดยากมากกว่าปกติหากเป็นการฝังแน่นที่ใช้น้ำเช็ดไม่ออกเราขอแนะนำว่าให้คุณนำน้ำส้มสายชูผสมเข้ากับน้ำอุ่นเล็กน้อยจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าเช็ดตามอีกครั้ง

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

สาเหตุที่เราจะต้องกินน้ำในปริมาณมากๆต่อวัน

น้ำถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่เราจำเป็นจะต้องกินในแต่ละวันไม่มีใครขาดน้ำแล้วอยู่ได้นี่คือเรื่องจริงดังนั้นการที่ร่างกายของเราขับเคลื่อนได้ก็เป็นเพราะน้ำส่วนประกอบอย่างหนึ่งโดยในร่างกายของเรามีน้ำจำนวนมากและนั่นเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำเข้าไปไม่งั้นอาจจะน็อคถึงตายได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าเราสามารถทานอาหารน้อยลงได้หรือเราสามารถที่จะไม่ทานอาหารได้แต่ถ้าเราขาดน้ำในแต่ละวันจะทำให้ร่างกายของคุณแย่ลงหรือภายในระยะเวลาถึงสามวันถ้าเราไม่ได้รับน้ำเข้าร่างกายเลยคุณมีสิทธิ์เสียชีวิตได้นะดังนั้นน้ำจึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ร่างกายของคุณอยู่ได้น้ำจะมีประโยชน์อะไรบ้างมาดูกันเลย

 

สาเหตุที่เราจะต้องกินน้ำ ในปริมาณมากๆต่อวัน ได้แก่

1.น้ำดีต่อสมองและระบบประสาท

สมองของเราจะมีน้ำเข้าไปเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ลดอาการเครียดปวดศีรษะได้ส่วนประกอบที่เข้าไปช่วยในเรื่องของสมองนั้นก็คือน้ำจะเดินทางผ่านเส้นเลือดของคุณนั่นจึงทำให้ถ้าคุณกินน้ำน้อยอาจจะเกิดอาการมึนงงสมองไม่ปลอดโปร่งได้คุณลองดื่มน้ำให้มากขึ้นสิแล้วมันจะช่วยทำให้คุณคลายเครียดหรือคิดอะไรออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

2.น้ำช่วยให้ผิวพรรณของคุณดี

อย่างที่บอกว่าน้ำมีส่วนประกอบทุกส่วนของร่างกายของชีวิตคุณดังนั้นการที่คุณดื่มน้ำมากก็จะทำให้ผิวพรรณของคุณดีขึ้นได้โดยไม่ต้องสงสัยอะไรเลยถ้าคุณขาดน้ำผิวของคุณจะเหี่ยวย่นนั่นคือสัจธรรมของการใช้ชีวิตในการมีน้ำเป็นตัวประกอบจะสังเกตได้ว่าผิวที่ชุ่มชื้นก็คือคนที่ดื่มน้ำบ่อยเพราะมันเข้าไปช่วยให้ผิวของคุณดูมีน้ำมีนวลและมีความยืดหยุ่นได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

3.น้ำเป็นตัวช่วยขับสารพิษภายในร่างกายของคุณออกมาได้

เราได้บอกไว้ว่าน้ำเป็นองค์ประกอบหลักสำคัญในร่างกายของคนเราจึงมีตัวช่วยจากน้ำที่ช่วยให้ร่างกายของเราสมดุลย์ขึ้นดังนั้นการที่เราดื่มน้ำเข้าไปมากๆมันจะเข้าไปช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของคุณออกมาได้และการดื่มน้ำมากๆยังช่วยในการขับถ่ายให้ดีขึ้นได้ด้วยนะไม่เชื่อคุณลองไปดื่มน้ำมากๆดูสิคุณจะรู้ว่าสิ่งที่เราพูดมานี้คือเรื่องจริง

 

4.น้ำทำให้อวัยวะต่างๆของเราทำงานได้ดีขึ้น

เหตุที่เราต้องดื่มน้ำมันเป็นเรื่องไม่ใช่แค่เรามโนไปเองแต่การที่เราดื่มน้ำมันช่วยในเรื่องด้านต่างๆภายในร่างกายของเรารู้มั้ยว่าน้ำอยู่ในร่างกายของเรา 70% กันเลยนะดังนั้นการที่มีน้ำขับเคลื่อนอาจจะส่งผลให้ร่างกายของคุณดีขึ้นมากกว่าการที่คุณไปทานอาหารเติมโปรตีนอื่นๆเข้ามาก็ได้ไม่ใช่โปรตีนเป็นเรื่องที่ไม่ดีแต่จะบอกว่าน้ำมีส่วนสำคัญกับร่างกายของคนเรามากที่สุด

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

แอบงีบนอนกลางวัน ส่งผลเสียแก่เราหรือไม่

หลายคนมักจะงีบหลับในเวลากลางวัน ซึ่งงเวลากลางวันตามโรงงานหรือบริษัทต่างๆเมื่อได้พักเที่ยงแล้วก็จะมีการทานข้าวและให้หลังจากนั้นมาก็จามีการแอบงีบหลับบางคนใช้เวลา 5ถึง 10 นาที หรือบางคนก็อาจจะมากกว่านั้น เพื่อเป็นการชาร์จพลังในเวลาว่างเพื่อจะทำให้มีแรงทำงานในเวลาช่วงบ่ายหรืออาจจะส่งผลทำให้บางคนไม่ง่วงเลยตอนบ่ายได้

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่เราแอบงีบหลับในเวลาพักเที่ยงโดยใช้ช่วงเวลา 15 นาทีถึง 30 นาทีถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีแก่ร่างกายของคุณแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการนอนที่ระยะเวลายาวยาวในช่วงเวลากลางวันจะส่งผลดีแก่ร่างกายของคุณนะ

ถ้าหากคุณใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการงีบหลับนั่นเท่ากับว่ามันเกินไปซึ่งอาจจะส่งผลเสียได้เช่นกัน ถ้าเวลาที่คุณหลับมากเกินไปหรือใช้มากกว่า 30 นาทีอาจจะส่งผลทำให้คุณตื่นมาแล้วไม่สดชื่นแทนที่จะใช้เวลางีบเพื่อให้มันสดชื่น แต่กลับไม่สดชื่นแล้วรู้สึกงงงวยมากกว่าเดิมก็ได้

 

การงีบหลับกลางวันส่งผลดีกับเราอย่างไร

 เรื่องราวของการงีบหลับนี้มีการถูกนำไปสำรวจหรือวิจัยมาแล้วว่าการงีบหลับนั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการป่วยจากโรคหัวใจหรือว่าโรคหัวใจล้มเหลวได้มากเลยทีเดียวโดยต่างประเทศมีการให้พนักงานของพวกเขางีบหลับในเวลากลางวันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง

ซึ่งมันส่งผลทำให้พนักงานของเขามีความกระฉับกระเฉงกระตือรือร้นในการทำงานช่วงบ่ายมากกว่าการที่ปล่อยให้พวกเขาทำงานในระยะยาวโดยไม่ได้พักผ่อนหรืองีบหลับนั่นเอง

 

แน่นอนว่าการใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีหรือ 15 ถึง 30 นาทีนี้เป็นเวลาที่ทำให้คุณช่วยลดอาการเสียชีวิตจากการเป็นโรคหัวใจของคุณได้การพักผ่อนในการงีบในเวลากลางวันมีประสิทธิภาพมากพอกับการพักผ่อนอย่างอื่นที่ช่วยกระตุ้นให้จิตใจของคุณดีขึ้น

 

ช่วงระยะเวลาของการงีบหลับโดยคุณควรใช้ให้พอดีและเหมาะสม

-ช่วงเวลางีบ 10-20 นาที

ใช้ช่วงเวลานอนที่น้อยจะส่งผลทำให้คุณมีความกระตือรือร้นกระปี้กระเป๋าและยังส่งผลให้สมองของคุณนั้นปลอดโปร่งอีกด้วยดังนั้นการใช้เวลานอนงีบเพียง 10 ถึง 20 นาทีก็จะถือว่าเป็นการดีสำหรับวัยทำงานจะเป็นการชาร์จพลังให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นในช่วงบ่ายได้ดี 

-ช่วงเวลางีบ 30 นาที

กลับผู้ที่ใช้เวลาในการเงียบนานถึง 30 นาทีนี้ต้องบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะเยอะไปนิดนึงสำหรับศาลมีปนอนในเวลากลางวันดังนั้นมันจะส่งผลทำให้คุณงงนิดนิดหรืออาจจะส่งผลทำให้คุณปวดหัวได้ในบางคนดังนั้นถ้าคุณนอนถึง 30 นาทีเราไม่ขอแนะนำ

-ช่วงเวลางีบ 60 นาที

สำหรับช่วงเวลาที่นอนงีบเป็นชั่วโมงต้องบอกว่ามันจะรู้สึกดีกว่าครึ่งชั่วโมงอย่างเห็นได้ชัดการจำหรือเรื่องราวต่างๆนี้จะส่งผลทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเป็นไปในทางทิศที่ดีดังนั้นการนอนชั่วโมงนึงจึงเหมาะกับผู้ที่ใช้สมองมากๆทำงานหนักหนักพวกกลุ่มคนเหล่านี้จึงเหมาะแก่การงีบ 1 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมงและไม่ควรต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ฮอยอาน่า